รูปทรงของถุงเต้านมจะแบ่งออกได้ 2 แบบ คือ
- รูปกลม ( Round Breast implant )
- ทรงหยดน้ำหรือทรงธรรมชาติ ( Anatomical ,Contour)
- รูปกลม ( Round Breast implant )
- มีลักษณะเป็นรูปทรงกลม เมื่อใส่เข้าไปในร่างกายถุงก็จะคงรูปเป็นรูปกลมแบน
- ถุงทรงกลมมีการทำออกมาทั้งแบบผิวทรายและผิวเรียบ
- การเลือกขึ้นกับคนไข้และรูปร่างของหน้าอก
- การใส่ถุงทรงกลมบางครั้งอาจไม่ธรรมชาติเวลานอนถุงจะไม่คล้อยในด้านข้าง และมีรูปร่างกลมแต่ถ้าคนไข้ยืนเจลที่อยู่ภายในถ้าเป็นเจลธรรมดา จะไหลลงล่างส่วนหน้าอกที่อยุ่ใต้หัวนมมีความนูนมากกว่าเหนือหัวนมก็จะดูเป็นธรรมชาติได้
- ถุงทรงกลมมีราคาต่ำกว่าถุงทรงหยดน้ำ
ทรงสูงทรงธรรมชาติ ถุงทรงกลมจะมีการผลิตให้มีความกว้างของฐาน และความสูงแตกต่างกัน เพื่อให้มีความเหมาะสมกับลักษณะหน้าอกและความต้องการของคนไข้ โดยจะมีการเรียกแตกต่างกัน ขึ้นกับแต่ละบริษัทโดยทั่วไปอาจแบ่งออกได้เป็น 3 แบบ คือ
- ทรงธรรมชาติ ( Normal standard low profile ) สำหรับผู้ที่ต้องการหน้าอกที่เป็นธรรมชาติ
- ทรงกลางๆ ( Mederate profile) จะมีลักษณะฐานแคบลงและความสูงเพิ่มขึ้นเหมาะกับคนที่ต้องการให้ หน้าอกตั้งมากขึ้นโดยเหมาะกับคนที่ช่วงไหล่แคบและต้องการให้หน้าอกมีความนูนมากและเนินหน้า อกเห็นได้ชัด
- ทรงสูง ( high profile ) เป็นทรงที่มีฐานแคบกว่าทรงกลางและความสูง สูงกว่าเหมาะกับคนที่ต้องการหน้าอกที่นูนมาก
ในปัจจุบันทรงธรรมชาติมีการใช้น้อยลงมักใช้รูปทรงกลางและสูงมากกว่า โดยทั่วไปแต่ละบริษัท จะมีการเรียกที่แตกต่างกันบ้าง แต่ลักษณะการเปลี่ยนแปลงของทรงของถุงเต้านมจะเป็นแบบเดียวกันกับที่กล่าว คือฐานแคบลงและไปเพิ่มที่ความสูง การเลือกทรงอาจต้องอาศัยประสบการณ์และพิจารณาจากคนไข้เป็นรายๆไป ในที่นี้จะกล่าวถึงว่าในถุงแต่ละบริษัทมีการจัดทรงแบบใดบ้าง เพื่อเป็นตัวอย่างการพิจารณาคร่าว
- MENTOR - ไม่ได้ผลิตและนำเข้าแบบธรรมชาติแล้วในปัจจุบันจะมีแบบ
A. ทรงกลางๆ ( Moderate profile ) B. ทรงกลางๆ พลัส ( Moderate plus ) C. ทรงสูง ( High profile ) D. ทรงสูงมาก (Ultra high profile) A B C –เป็นทรงที่มีใช้ในประเทศไทย
- PIP -มีรูปแบบ
1. แบบมาตรฐาน ( standard ) มีลักษณะฐานกว้างความสูงน้อย 2. แบบสูง ( high profile ) ฐานแคบและความสูงมากกว่า 3. แบบสูงมาก ( ullrahigh ) 1,2 เป็นทรงที่มีใช้ในประเทศไทย
- ALLERGAN มีแบบ
1. แบบมาตรฐาน ( MLP ) 2. แบบสูง ( MHP )
การจัดรูปทรงต่างๆของแต่ละบริษัทอาจมีรูปร่างแตกต่างกัน ต้องดูแล้วแต่การออกแบบของแต่ละบริษัท ตัวอย่างเช่น ถุงขนาด 300 cc มาตรฐาน เมื่อเทียบกับถุงขนาด 300 cc ของอีกบริษัทจะมีความแตกต่างกันทั้งความสูงและเส้นผ่าศูนย์กลาง ดังนั้น การเลือกขนาดต้องอาศัยประสบการณ์และความคุ้นเคยของแพทย์แต่ละคนว่าคุ้นเคยกันแบบไหน
- ทรงหยดน้ำหรือทรงธรรมชาติ ( Anatomical, Contour )
แรกเริ่มทรงหยดน้ำ ถุงออกแบบมาเพื่อใช้ในการผ่าตัดเสริมหน้าอกในคนที่ตัดมะเร็งเต้านมถุงทรงหยดน้ำถูกออกแบบให้มีลักษณะเหมือนเต้านมธรรมชาติ คือถ้ามองจากด้านหน้าถุงจะมีลักษณะเป็นวงรี ถ้ามองจากด้านข้าง พบว่าถุงจะมีขนาดใหญ่บริเวณด้านลาง ส่วนด้านบนจะมีขนาดเล็ก ( ลักษณะเหมือนกับรูปปิรามิด ) จากการออกแบบจะทำให้ถุงทรงหยดน้ำจะมีน้ำหนัก ด้านล่างมากกว่าด้านบน ถุงแบบหยดน้ำ ถูกออกแบบให้มีตำแหน่งที่ชัดเจนในการวางขณะผ่าตัดและหลังผ่าตัดถุงทรงหยดน้ำไม่ควรที่จะหมุนได้ ดังนั้นถุงทรายหยดน้ำ มักจะเป็นถุงทราย ไม่มีการผลิตเป็นผิวเรียบ เพราะผิวทรายจะทำให้เนื้อเยื่อเกาะได้ดีทำให้ไม่เกิดการหมุน ดังนั้นการผ่าตัดชนิดนี้จะยาก กว่าการใส่ถุงชนิดกลม เพราะบางบริษัทจะทำออกมาเป็นถุงของหน้าอกซ้ายหรือขวา แพทย์จะต้องเปิดช่องให้พอดีไม่ใหญ่เล็กจนเกินไป และวางถุงที่ตำแหน่งที่พอดีกับช่องว่าง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการหมุนของถุง
- เช่นเดียวกับถุงทรงกลม ถุงทรงหยดน้ำแต่ละบริษัท จะมีการออกแบบไว้หลายอย่างเพื่อให้เลือกได้โดยที่จะมีความแตกต่างในเรื่องความยาวของถุง และความสูง ให้ถุงมีความแตกต่างเช่น Inamed จะมีแบบยาวสั้น ถุงทรงสูงหรือทรงธรรมชาติ ขณะที่ Mentor จะมีทรงสูงและทรงปานกลาง PIP จะมีแบบยาวและแบบสั้นสำหรับในประเทศไทยมีการใช้ถุงแบบนี้ค่อนข้างน้อย บริษัทแต่ละบริษัทจะไม่ได้นำเข้าถุงแบบนี้มาทุกแบบ ถ้าคิดจะใช้ถุงชนิดนี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนวันผ่าตัด นานพอสมควรเพื่อดูว่ามีขนาดที่ต้องการหรือไม่
ผิวของถุงโดยทั่วไปแบ่งเป็น
- ผิวเรียบ ( Smooth implant )
- ผิวทราย ( Textured implant
- ถุงผิวเรียบ
- เป็นถุงที่ผลิตมาก่อนผิวทรายโดยจะมีความหนาน้อยกว่าถุงผิวทรายทำให้เวลาสัมผัสจะนิ่มกว่าผิวทราย
- หลังจากผ่าตัดโดยใช้ถุงผิวเรียบจะเริ่มให้นวดค่อนข้างเร็วเมื่อเข้าที่แล้วถุงผิวเรียบจะสามารเคลื่อนที่ได้รอบๆช่องว่าง ที่ทำไว้โดยถุงเต้านมที่ใส่ถุงผิวเรียบที่เป็นปกติ ไม่ว่าจะใช้เหนือหรือใต้กล้ามเนื้อ ถ้าไม่มีพังพืดรัด การนวดหรือสัมผัสจะขยับถุงได้รอบทุกทิศทางตั้งแต่ขอบล่างของเต้านมจนถึงใต้กระดูกไหปลาร้า ขึ้นกับช่องว่างที่ทำไว้เมื่อเปรียบเทียบกับหน้าอกที่ใส่ถุงผิวทราย เวลานวดขอบถุงเต้านมจะไม่สามารถเคลื่อนถุงไปได้รอบ
- ผิวทราย ( Textured ) ถุงผิวทรายจะมีเปลือกถุงหนากว่าผิวเรียบและมีโอกาสที่จะมีการฉีกขาดของถุงได้มากกว่าผิวเรียบเพราะมีการพับงอได้มากกว่า
- ถุงผิวทรายออกแบบครั้งแรกเพื่อป้องกันการเกิดพังพืดหดรัดหลังจากใช้ได้ซักระยะหนึ่งพบว่าอัตราการเกิดพังพืดอาจไม่ต่างกัน ถ้าใส่ใต้กล้ามเนื้อ แต่ถ้าใส่เหนือกล้ามเนื้อพบว่าส่วนใหญ่โอกาสเกิดพังพืดรัดมีน้อยกว่า อย่างไรก็ตามการเกิดพังพืดกับผิวของถุงปัจจุบัน แพทย์จะมีความเห็นแตกต่างกัน
- การที่ถุงผิวทรายมีความหนามากกว่าผิวเรียบโอกาสที่ถุงจะพับงอหรือคว่ำได้ รอยพับของถุงจะมีมากกว่า การเกิดรอยพับที่เกิดจากเนื้อเยื่อหรือพังพืดติดกับเปลือกถุงและมีการหดรัดดึงถุงขึ้นมาการเกิดรอยพับมักไม่เกิดกับถุงผิวเรียบ ในกรณีถ้าเกิดปัญหาเรื่องพับจากการหดของเนื้อเยื่อการแก้ไขต้องผ่าตัดใหม่โดยเปลื่ยนเป็นถุงผิวเรียบ
- หลังผ่าตัดด้วยถุงผิวทรายที่ไม่สามารถขยับเปลื่ยนตำแหน่งไปมาได้เวลานวดเต้านม
|