ตำแหน่งถุงเต้านม
-ผลของการผ่าตัดเสริมหน้าอกส่วนหนึ่งขึ้นกับการวางถุงเต้านมไว้บริเวณใต้หรือเหนือกล้ามเนื้อหน้าอก ด้วย การวางถุงไว้ใต้กล้ามเนื้ออาจวางไว้ใต้กล้ามเนื้อบางส่วนหรือใต้กล้ามเนื้อทั้งหมดโดยทั่วไปอาจแบ่งตำแหน่ง
ที่วางถุงซิลิโคนได้ดังนี้
1.เหนือกล้ามเนื้อ (SUBGLANDULAR PLACEMENT)
2.ใต้กล้ามเนื้อบางส่วน(PARTIALLY SUBMUSCULAR)
3.ใต้กล้ามเนื้อทั้งหมด(COMPLETELY SUBMUSCULAR)
1.เหนือกล้ามเนื้อ (SUBGLANDULAR PLACEMENT)เป็นการใส่ถุงเต้านมที่ระดับใต้เนื้อเต้านมโดยที่ถุงซิลิโคนวางอยู่เหนือกล้ามเนื้อ การผ่าตัดไม่ยุ่งยากจึงมีผลข้างเคียงน้อยกว่าและหายเร็วกว่าเหมาะสำหรับสาวนักกีฬาหรือสาวที่มีไขมันหรือเนื้อเหยื่อเต้านมเพียงพอจะเป็นกันชนระหว่างผิวเนื้อกับเต้านมเทียมทำให้ได้เต้านมที่สวยงามเป็นธรรมชาติ แต่มีข้อเสียคือ เสี่ยงต่อการเกิดพังพืดได้มากกว่าและยังตรวจแมมโมแกรมได้ยากกว่า การผ่าตัดเหนือกล้ามเนื้อจะทำให้รูปร่างของเต้านมมีรูปทรงหลังผ่าตัดเต้านมเป็นทรงกลม ซึ่งคนไข้บางคนก็จะเป็นลักษณะเต้านมแบบนี้สวยและดูเป็นธรรมชาติ แต่มีโอกาสจะเกิดพังพืดแข็งได้มากกว่า
การผ่าตัดเสริมหน้าอกโดยวางตำแหน่งถุงเต้านมเทียมเหนือกล้ามเนื้อ
ข้อดี
|
ข้อเสีย
|
-ไม่มีการเคลื่อนตัวของถุงเต้านมเทียมขณะที่มีการขยับกล้ามเนื้อ
|
-ในรายที่ผิวหนังบางมีโอกาสคลำพบขอบเต้านมเทียมได้สูงกว่า
|
-เจ็บน้อยกว่า(ในระยะแรก)ระยะพักฟื้นสั้นกว่า
|
-มองเห็นขอบเต้านมเทียมได้มากกว่า
|
-มองดูเป็นธรรมชาติมากกว่าถ้ามีเนื้อนมมากพอ
|
-ตัวเต้านมเทียมมีโอกาสคล้อยได้มากกว่า
|
-การผ่าตัดทำได้ง่าย
|
-ทำให้เต้านมจริงถูกเบียดได้มากกว่าหรือหดแฟบได้มากกว่า
|
-กรณีที่เต้านมคล้อยไม่มากอาจช่วยแก้ปัญหาเต้านมคล้อยทำให้ไม่ต้องทำการผ่าตัดกระชับเต้านม
|
-ถ้าเกิดพังพืดรัดจะมองเห็นได้ชัดเจนโดยเฉพาะคนที่มีผิวหนังบาง
|
-สามารถใส่ถุงขนาดใหญ่มากๆได้
|
-อ่านแมมโมแกรมได้ยากแม้จะใช้เทคนิคพิเศษ
|
-การผ่าตัดแก้ไขทำได้ง่ายกว่าใต้กล้ามเนื้อ
|
-ถ้ามีรอยพับของถุงเต้านมจะมองเห็นและคลำได้ชัดเจนกว่าโดยเฉพาะถุงที่เป็นผิวทราย
|
|
-โอกาสเกิดพังพืดหดรัดมีมากกว่า
|
|
-มีโอกาสที่เต้านมจะเคลื่อนที่ลงล่างได้มากกว่า(Bottoming)ทำให้เกิดลักษณะเต้านมคล้อยมาก
|
2.ใต้กล้ามเนื้อบางส่วน(Portialy Submuscular) เป็นการวางถุงเต้านมไว้ใต้กล้ามเนื้อหน้าอกมัดใหญ่มัดเดียวโดยที่จะมีบางส่วนของถุงไม่ถูกปิดทับด้วยกล้ามเนื้อหน้าอกได้แก่บริเวณด้านล่างและด้านข้างของถุงเต้านมการผ่าตัดอาจทำโดยผ่านแผลหัวนมหรือใต้ราวนมโดยผ่าตัดผ่านกล้ามเนื้อและพังพืดบริเวณส่วนล่างของกล้ามเนื้อเพื่อเข้าไปเปิดช่องว่างใต้กล้ามเนื้อ
การเสริมใต้กล้ามเนื้อมักไม่เหมาะกับผู้ที่มีเนื้อหน้าอกเล็กน้อยเพราะกล้ามเนื้อจะช่วยเป็นผนังด้านนอกอีกชั้นหนึ่งก่อนที่จะถึงถุงเต้านมช่วยให้มีโอกาสคลำขอบถุงได้น้อยลงแต่หลังผ่าตัดจะบวมและเจ็บปวดอยู่นานการอยู่ทรงของทรงหน้าอกหลังการผ่าตัดใช้เวลานานกว่าการผ่าตัดเหนือกล้ามเนื้อโดยที่อาจใช้เวลา 2-3 เดือน โดยกล้ามเนื้อหน้าอกจะค่อยๆยืดจนกระทั่งได้ทรงที่ต้องการ
ข้อดี
|
ข้อเสีย
|
-มีโอกาสคลำพบถุงเต้านมเทียมได้น้อยกว่า
|
-มีการเคลื่อนตัวของถุงเต้านมเทียมได้ขณะที่มีการขยับกล้ามเนื้อ
|
-มองเห็นขอบเต้านมเทียมได้น้อยกว่า
|
-เจ็บมากกว่า(ในระยะแรก)
|
-พบรอยย่นน้อยกว่า
|
-ใต้ราวนมมองเห็นขอบเต้านมไม่ชัด
|
-ตัวเต้านมเทียมมีโอกาสคล้อยได้น้อยกว่า
|
-หน้าอกจะดูห่างกว่า
|
-ทำให้เต้านมจริงถูกเบียดน้อยกว่าหรือหดแฟบได้น้อยกว่า
|
-มีโอกาสที่เต้านมจริงจะไม่คล้อยตัวทำให้ มองดูเป็นธรรมชาติ
|
-ถ้ามีปัญหาเรื่องพังพืดรัดจะมองเห็นไม่ค่อยชัด
|
-ระยะเวลาพักฟื้นนานกว่าแบบเหนือกล้ามเนื้อ
|
-ไม่มีผลต่อการทำ แมมโมแกรม
|
-เทคนิคการผ่าตัดยากกว่าเหนือกล้ามเนื้อ(ทำโดยเปิดทางปานนมหรือราวนม)
|
-ทรงเต้านมแม้จะดูไม่สวยเหมือนกับเหนือกล้ามเนื้อแต่ดูเป็นธรรมชาติเนื่องจากกล้ามขอบหน้าอกจะกดถุงซิลิโคนบริเวณด้านบนให้ดูแฟบลง ขอบเขตที่ส่วนล่างกล้ามเนื้อจะหนาน้อยกว่าส่วนบนทำให้เห็นลักษณะของถุงชัดเจนขึ้นเฉพาะส่วนล่างทำให้ลักษณะของเต้านมดูเป็นธรรมชาติ
|
-ส่วนล่างและด้านข้างไม่มีกล้ามเนื้อคลุมเพราะฉะนั้นส่วนล่างของถุงซิลิโคนจะอยู่ระดับเดียวกับการผ่าเหนือกล้ามเนื้อทำให้ด้านล่างของถุงซิลิโคนไม่มีการรองรับโดยกล้ามเนื้อทำให้ถุงมีโอกาสเลื่อนลงล่างได้และอาจคลำได้ขอบถุงบริเวณขอบล่างด้านข้างๆได้
|
-มักคลำไม่ได้รอยพับของถุงเต้านม(ยกเว้นถุงผิวทราย)
|
-ใช้เวลานานกว่าจะเข้าที่แต่จากหลังที่เข้าที่แล้วจะดูเป็นธรรมชาติมาก
|
-โอกาสเกิดพังพืดหดรัดน้อยกว่า
|
|
-โอกาสเกิดเต้านมยานลงในอนาคตน้อยกว่า
|
|
3.ใต้กล้ามเนื้อทั้งหมด(Completely Submuscular) การวางตำแหน่งถุงไว้ใต้กล้ามเนื้อทั้งหมด เป็นการวางถุงเต้านมไว้ใต้กล้ามเนื้อสามมัดคือ ด้านบน และส่วนกลาง วางไว้ใต้กล้ามเนื้อหน้าอกมัดใหญ่ ด้านข้างของหน้าอกส่วนบนวางใต้กล้ามเนื้อด้านข้างของหน้าอก ส่วนด้านล่างวางไว้ใต้ส่วนบนของกล้ามเนื้อท้อง ดังนั้นถุงเต้านมจะถูกคลุมด้วยกล้ามเนื้อทุกด้าน (Rectus abdomininis และ Serratus anterior) กล้ามเนื้อทั้งสามมัดช่วยทำหน้าที่เป็นเปลที่รับถุงซิลิโคนป้องกันไม่ได้มีการเคลื่อนของถุงลงล่าง
การผ่าตัดวางถุงใต้กล้ามเนื้อทั้งหมด อาจทำได้ทั้งทางปานนม,ราวนม หรือรักแร้แต่การทำผ่าตัดทางรักแร้มีข้อดีที่กล้ามเนื้อส่วนล่างไม่มีการฉีกขาด
ข้อดี
|
ข้อเสีย
|
-มีโอกาสคลำรอยพับของถุงเต้านมเทียมน้อยมาก
|
-มีการเคลื่อนตัวของถุงเต้านมเทียมได้ขณะที่มีการขยับกล้ามเนื้อ
|
-มองเห็นขอบเต้านมเทียมได้น้อยกว่า
|
-เจ็บมากกว่า(ในระยะแรก)
|
-พบรอยย่นน้อยกว่า
|
-ใช้เวลานานกว่าจะเข้าที่แต่ถ้าเข้าที่แล้วจะเป็นธรรมชาติ
|
-ตัวเต้านมเทียมมีโอกาสคล้อยได้น้อยกว่า
|
-หน้าอกจะดูห่างกว่า
|
-ทำให้เต้านมจริงถูกเบียดน้อยกว่าหรือหดแฟบได้น้อยกว่า
|
-มีโอกาสที่เต้านมจริงจะไม่คล้อยตัวทำให้มองดูไม่เป็นธรรมชาติ
|
-ถ้ามีปัญหาเรื่องพังพืดรัดจะมองเห็นไม่ชัด
|
-ถ้าต้องการแก้ไขภายหลังทำได้ยาก
|
-เต้านมมีรูปทรงธรรมชาติเนื่องจากส่วนบนถูกกดโดยกล้ามเนื้อหนาๆขณะที่ส่วนล่างถูกกดโดยกล้ามเนื้อบางๆทำให้รูปทรงเต้านมเป็นธรรมชาติ
|
-เทคนิคค่อนข้างยาก(ถ้าลงแผลทางใต้ราวนมหรือหัวนม)
|
-ไม่มีรอยย่นของถุงเต้านม(ยกเว้นในผู้หญิงที่ผอมมากและใช้ถุงผิวทราย)
|
-ในกรณีที่เต้านมคล้อยมากและมีขนาดเต้านมใหญ่ไม่ควรเลือกการวางตำแหน่งนี้เพราะอาจทำเต้านมเป็นมีรูปร่างเป็นสองลอนโดยที่เต้านมคล้อยแต่มีขนาดใหญ่เฉพาะส่วนใต้กล้ามเนื้อ(Snoopy breast)
|
-โอกาสเกิดพังพืดหดรัดน้อยมาก
|
-ระยะเวลาพักฟื้นนานกว่าโดยในช่วงแรกต้องพยายามลดการขยับแขนเนื่องจากการขยับแขนจะทำให้ถุงเต้านมเคลื่อนไปมาได้มาก
|
-ไม่มีผลต่อการอ่าน แมมโมแกรม
|
|
-โอกาสที่ถุงเต้านมจะเลื่อนลงลดน้อยลงมาก
|
|
-ใต้ราวนมมองเห็นขอบเต้านมไม่ชัด
|
|
-ลดโอกาสที่จะคลำขอบถุงได้ |
|
สรุปผลของแต่ละวิธี
|
เหนือกล้ามเนื้อ
|
ใต้กล้ามเนื้อบางส่วน
|
ใต้กล้ามเนื้อทั้งหมด
|
การทำ แมมโมแกรม
|
มีผลต่อการอ่านแม้จะใช้เทคนิคพิเศษ
|
ไม่มีปัญหา
|
ไม่มีปัญหา
|
พังพืดหดรัด
|
สูง
|
ต่ำ
|
ต่ำ
|
โอกาสถุงพับงอ
|
สูง
|
ต่ำ
|
ต่ำ
|
รูปทรงที่ดูเป็นธรรมชาติ
|
|
เป็นธรรมชาติ
|
เป็นธรรมชาติ
|
ถุงซิลิโคนเลื่อนต่ำลง
|
พบบ่อย
|
พบบ่อย
|
ไม่มี
|
การแก้ไขเต้านมคล้อย
|
แก้ไขได้ถ้าเต้านมคล้อยน้อย
|
แก้ไขได้บ้างแต่อาจต้องทำการผ่าตัดกระชับเต้านมภายหลัง
|
แก้ไขได้บ้างโดยการยืดกล้ามเนื้อหน้าอกแต่อาจต้องทำการผ่าตัดกระชับหน้าอกต่อ
|
การคล้อยหลังผ่าตัด
|
พบได้บ่อยโดยเฉพาะคนที่ผ่าตัดเพื่อแก้ปัญหาเรื่องเต้านมยาน
|
พบน้อย
|
พบน้อย
|
|