หลังผ่าตัด

หลังผ่าตัด

     โดยทั่วไปการผ่าตัดเสริมหน้าอกจะทำโดยการดมยาสลบแล้วพักฟื้นที่โรงพยาบาล 1 คืน เพื่อความปลอดภัยหลังผ่าตัด ที่ต้องดมยาสลบควรดูแลหลังผ่าตัดมีดังต่อไปนี้ ( หมายเหตุ การดูแลหลังผ่าตัด เป็นเทคนิคเฉพาะทางแพทย์ ผู้เขียนอาจไม่เหมือนกับแพทย์ท่านอื่น )

  1. วันแรกหลังผ่าตัด แพทย์จะเอาสายระบายน้ำเหลืองออก แล้วคลายผ้าพันแผลให้หลวม
  2. วันที่ 3 หลังผ่าตัดให้ถอดผ้ายืดออก แล้วปิดแผลทั้ง 2 ข้าง แล้วใส่ชุดชั้นในแบบสปอร์ตบราหรือไม่มีโครง
  3. สามารถอาบน้ำถูสบู่ถูแผลได้ทันทีหลังการถอดผ้ายืด
  4. ควรใส่ บราทั้งกลางวันและกลางคืนในช่วงอาทิตย์แรก
  5. วันที่ 5-7 จะนัดมาทำการตัดไหมและตรวจเต้านม เริ่มทำการนวดเบาๆ
  6. ไม่ควรยกของหนัก หรือออกกำลังกายที่ใช้กล้ามเนื้อหน้าอก ประมาณ 2 อาทิตย์
  7. อาทิตย์ที่ 2 เริ่มทำการนวดเต้านมวันละ 10-15 นาที อย่างน้อย 2 หน ขณะอาบน้ำ ต่อวัน
  8. ถ้าตั้งครรภ์ควรรอ 6 เดือน
  9. ควรนวดคลึงเต้านมบ่อยๆอย่างน้อย 6 เดือนเพื่อป้องกันปัญหาโพรงที่ใส่ถุงนมมีการหดรัดรอบถุง ทำให้เต้านมแข็งหดเป็นก้อน
     

  * หมายเหตุ

  • - จะรู้สึกชา ชั่วคราวบางรายนาน 1-2 เดือน
  • - อาการบวมจะหายภายใน 3-10 วัน ถ้าเป็นการผ่าตัดเหนือกล้ามเนื้อ ประมาณ 2-12 อาทิตย์ สำหรับการผ่าตัดใต้กล้ามเนื้อ พยายามหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายในช่วง 2 อาทิตย์แรก และควรนอนหนุนหมอนสูง
    - ต้องสวมสปอร์ตบราตลอด 1-4 อาทิตย์อย่าเพิ่งใส่บราเสริมโครงจนกว่าศัลยแพทย์จะบอกใส่ได
    - ้เข้าที่ภายใน 1 เดือน สำหรับการผ่าตัดเหนือกล้ามเนื้อ และ 3 เดือนสำหรับการผ่าตัดใต้กล้ามเนื้อ
    - พังพืด สำหรับผู้ที่เลือกใช้เต้านมซิลิโคน จะมีโอกาสเกิดพังพืดสูงกว่าผู้ที่ใช้เต้านมบรรจุน้ำเกลือเล็กน้อยประมาณ 1-2 % หลังจากใส่
    - เต้านมเทียมแล้ว ร่างกายจะสร้างเนื้อเยื่อห่อหุ้มเต้านมตามปกติ แต่ถ้าเนื้อเยื่อเกิดรัดเต้านมเทียมแน่นจนเกินไปจะเกิดเป็นพังพืดเต้านมเทียมไม่ก่อให้เกิดมะเร็งเพียงแต่ทำให้ ตรวจหามะเร็งด้วย แมมโมแกรมยากกว่าปกติถ้ามีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านมก็ขอให้คิดใหม่แต่ถ้าอยากทำจริงๆสามารถใส่ใต้กล้ามเนื้อและต้องขอรับการตรวจแมมโมแกรม แบบพิเศษ
  • - หัวนมชาหรือไวต่อความรู้สึก 15 % ของผู้หญิงที่เสริมอกจะมีอาการหัวนมชาและจะเป็นแบบชั่วคราวและมักเกิดกับการเสริมเหนือกล้ามเนื้อ
  • - ถ้าคุณทานแอสไพริน อินโฟรเฟน หรือ รีบร้อนออกกำลังกายไป อาจเกิดอาการเลือดคั่งได้ ซึ่งจะต้องผ่าตัดเอาเลือดคั่งออก
  • - ให้ใส่สปอร์ตบราเพื่อให้เต้านมอยู่ในตำแหน่งที่ดี พยายามจัดยกทรงให้พอดีและเท่ากันทั้งสองข้าง
            อาทิตย์แรก -- ใส่สปอร์ตบราตลอดเวลา
            อาทิตย์ที่สอง – ใส่บราเฉพาะกลางวันได้
  • - การอาบแดด ถ้าอาบแดดควรทาครีมกันแดด บริเวณแผลโดยเฉพาะใช้ SPF มากกว่า 15 งดการอาบแดดหน้าอก 1 เดือน
  • - อาการบวมจะเป็นประมาณ 4 อาทิตย์ โดยจะบวมมากใน 2 อาทิตย์แรกและจะลดลง จะปกติ ไม่เปลี่ยนแปลงประมาณ 6 อาทิตย์
  • - การออกกำลังกาย
  •           งดทำงานบ้าน 3 วัน ในช่วง 3 วันไม่ควรอุ้มเด็ก
  •           งดออกกำลังกาย ภายหลัง 3 อาทิตย์
  •           หลังจาก 3 อาทิตย์เวลาออกกำลังกาย ควรใส่สปอร์ตบราเสมอ
  • - การขับรถ ขับได้เมื่อไม่ปวดแล้ว โดยทั่วไป 4 – 6 วัน สามารถขับได้ ถ้าเป็นพวงมาลัย พาวเวอร์
  • - การออกกำลังกายและนวดเต้านม 2-3 วัน หลังผ่าตัด การนวดมีเทคนิคหลายอย่างนี้เป็นตัวอย่างตำแหน่งที่สามารถนำไปใช้ได้
  • - สำหรับถุงผิวเรียบให้เริ่มนวดเร็วกว่าปกติ โดยเริ่มนวดตั้งแต่วันที่ 2 หลังผ่าตัด ถ้าทำได้
  • - การใช้ยาระงับกลิ่นกาย เริ่มใช้ได้หลังจากแผลหายแล้ว 5-7 วัน
  • - ยาแก้ปวดบางชนิดอาจทำให้คลื่นไส้อาเจียนได้เช่นกลุ่มยามอร์ฟีน เฟนตานิล จึงควรทานอาหารว่างร่วมด้วย เช่นขนมปังหรือแซนวิชหรือของขบเคี้ยว
  • - แพทย์อาจใช้สีวาดรูปไว้ตั้งแต่ก่อนผ่าตัดถ้าสียังลบออกไม่หมดสามารถใช้แอลกอฮอล์หรือน้ำยาล้างเล็บลบออกได้
  • - ถ้ามีอาการคลื่นไส้อาเจียนให้ขอยาคลื่นไส้อาเจียนจากแพทย์ก่อนกลับบ้าน
  • - หลังผ่าตัดจะโกนขนรักแร้ได้ยาก อาจต้องเตรียมเครื่องมือโกนขนอย่างอื่นไว้ใช้แทน
  • - ถ้ามีอาการบวมผิดปกติหรือมีไข้บวมแดงรอบบริเวณหน้าอกให้กลับมาพบแพทย์ทันที
  • - งดแอสไพริน , บลูเฟน อาหารบางชนิดเช่น กระเทียม 2 อาทิตย์หลังผ่าตัดเพราะสารเหล่านี้ทำให้เลือดออกง่ายถ้าจะกินยาอะไรเพิ่มในช่วง 2 อาทิตย์หลังผ่าตัด ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
  • - หลังผ่าตัดควรพักผ่อนมากๆ
  • - ถ้าหัวนมมีความรู้สึกไวมากกว่าปกติจนมีปัญหาถ้ากิจวัตรประจำวันอาจใช้ยาชาหรือ แผ่นปิดหัวนมปิดไว้ไม่ให้เสียดสีกับเสื้อผ้าได้
  • - โดยทั่วไปจะรู้สึกไม่สบายตัวมากใน 3 วันแรก หลังจากนั้นจะดีขึ้นอาการปวดมักมีมากขึ้นตอนเช้าหลังจากนั้น
    - ถ้าเริ่มยืนขึ้นและขยับเคลื่อนไหวในตอนบ่ายๆกล้ามเนื้อก็จะยืดขึ้นจะทำให้รู้สึกดีขึ้น
  • - หลังผ่าตัด 2 วันสามารถอายนํ้าได้ โดยใช้ฝักบัวหรือการตักอาบ ห้ามแช่ตัวในอ่างอาบน้ำเนื่องจากแผลที่ผ่าตัดอาจมีเชื้อโรคผ่านแผลเข้าไปแล้วเกิดการติดเชื้อได้
  • - ในวันแรกใช้น้ำเย็นประคบบริเวณเต้านม
  • - ไม่นั่งงอตัวหรือนอนคว่ำในช่วงอาทิตย์แรก
  • - มีเพศสัมพันธ์ได้ ถ้าใน 1 อาทิตย์แรก (ระมัดระวังการสัมผัสหน้าอก)
  • - ผ้าพันหน้าอกจะเอาออกได้ในวันที่ 2 และอาบน้ำได้
  • - ออกกำลังกายเบาๆได้ในวันที่ 5 หลังผ่าตัด
  • - ตัดไหม เมื่อครบ 7 วัน
  • - 3 อาทิตย์สามารถออกกำลังกายหนักๆได้
  • - 1 อาทิตย์แรกให้นอนหงายเพื่อให้ถุงเต้านมในตำแหน่งที่เหมาะสมแนะนำให้หนุนหมอนประมาณ 2 ใบ เพื่อให้อาการบวมยุบลงเร็ว
  •                2 อาทิตย์ให้นอนคว่ำให้หน้าอกราบกับพื้น จนรู้สึกตึงประมาณ 5 นาที หลังจากนั้น 1 อาทิตย์ ให้เริ่มถ่ายน้ำหนักไปที่หน้าอก สลับกันเพื่อให้ถุงหน้าอกเลื่อนไปมา
  •                2 อาทิตย์หลังผ่าตัด ใช้มือขวากดทับด้านล่าง ของเต้านม มือซ้ายกดให้ถุงเคลื่อนลงล่าง เริ่มตามปกติหลังผ่าตัด 2 วัน โดยใช้มือขวากดกลางหัวนม และลงน้ำหนักให้ซิลิโคนเคลื่อนได้ในมือ ถ้ามีเวลาให้นวด 5-6 ครั้ง / วัน

รายละเอียดในการดูแลหลังผ่าตัดในแต่ละเรื่องอาจแยกเป็นข้อๆได้ดังนี้

  • -ท่านอน ในช่วงอาทิตย์แรกหลังผ่าตัด ควรนอนหงายไม่ควรนอนตะแคงข้าง เพื่อให้ถุงเต้านมอยู่กับที่ในระหว่างการหายของแผลในหน้าอก
  • -กิจกรรมประจำวัน งดการทำงานบ้าน อุ้มเด็กหรือขยับแขนไปมา อย่างรวดเร็วในช่วง 3 วันแรก ในช่วงนี้สามารถออกแรงได้ ตามระยะที่ไม่เจ็บมาก หลัง 3 วันสามารถทำงานบ้านปกติได้ งดเว้นการยกของหนักหรือออกกำลัง
    กายหนัก ประมาณ 2 อาทิตย์ โดยทั่วไป สามารถทำกิจกรรมตามปกติได้ถ้าไม่มีอาการปวดมาก ขณะที่ทำ สามารถออกกำลังกายตามปกติ ได้หลัง 3 อาทิตย์ ในการออกกำลังกายควรใส่ สปอร์ตบราไว้ด้วย
  • -การดูแลแผล หลังจากเปิดแผลได้ 1-2 วัน สามารถเอาผ้ายืดที่พันหน้าอกออกได้แล้วใส่ยกทรงยกทรงทำหน้าที่เหมือนเป็นผ้ายืดที่ประคองหน้าอกไว้ ช่วยลดอาการเจ็บปวดเวลาเคลื่อนไหว ยกทรงที่ใช้ควรใช้ยกทรงที่ไม่มีโครงหรือที่เรียกว่า สปอร์ตบรา เนื่องจากไม่มีการกดจากโครงเหล็ก ทำให้ไม่มีอาการเจ็บปวดมาก พยายามขยับตำแหน่งของยกทรงแต่ละข้างให้เท่าๆกันหลังจากใส่ถ้ายกทรงที่ใส่ ครั้งแรกมีขนาดเล็กเกินไปจะทำให้เจ็บมากและแน่นมากควรเปลี่ยนยกทรงโดยทันที ยกทรงที่เล็กและตึงเกินไป อาจทำให้เกิดแผลกดทับที่ขอบยกทรงได้ ซึ่งถ้าผิวหนังถูกกดมากอาจทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นตายไป แล้วเกิดการอักเสบติดเชื้อที่ผิวหนังได้ ดังนั้นควรเลือกยกทรงที่หลวมๆนิดหน่อย ครั้งแรกหลังผ่าตัด อย่าซื้อเยอะ ซื้อประมาณ 2-3 ตัวมาใช้ก่อน เพราะเต้านมจะยุบบวมลงอีกและยกทรงที่ใช้จริงๆจะไซด์เล็กกว่าเดิมเล็กน้อย โดยทั่วไปแนะนำดังนี้

A ใส่ยกทรงตลอดเวลาประมาณ 2 อาทิตย์
B หลัง 2 อาทิตย์อาจไม่ใส่ยกทรงเวลานอนได้ แต่ตอนกลางวันควรใส่ยกทรงไว้ตลอด อย่างน้อย 4-6 อาทิตย์หลังผ่าตัด
C หลังผ่าตัด 4-6 อาทิตย์ อาจ no bra ในเวลากลางวันได้
D ยกทรงมีโครงให้ใช้ 1-3 เดือน หลังจากผ่าตัด แล้วแต่การผ่าตัด

  • -การอาบน้ำวันที่ 2 หลังผ่าตัดสามารถ อาบน้ำ ให้แผลถูกน้ำได้หลังจากถูกน้ำให้ใช้ผ้าเช็ดตัวที่สะอาดซับน้ำให้แห้งห้ามถูหรือขยี้ที่บริเวณแผลผ่าตัด
    หมายเหตุ การอาบน้ำแผลจะถูกน้ำเป็นระยะเวลาสั้นๆ สามารถทำได้แต่ไม่แนะนำให้แช่ลงในอ่างอาบน้ำเพราะแผลจะแช่อยู่ในน้ำนาน มีโอกาสอักเสบได้
  • -การยกของ ไม่ควรยกของหนักเกิน 2 กิโล ในช่วง 2 อาทิตย์แรก
  • -แผลเป็น แผลเป็นระยะแรกจะเห็นชัดในช่วง 2-3 เดือนแรก โดยแผลเป็นจะมีสีเข้มขึ้นและหนาและจะค่อย ๆ จางลงและนิ่มลงจนเป็นปกติในเวลา 1 ปี ดังนั้นระยะแรกหลังผ่าตัด ควรหลีกเลี่ยงการอาบแดด ควรทาครีมกันแดดบริเวณแผลควรเลือกครีมกันแดดตั้งแต่ แฟกเตอร์ 15 ขึ้นไป ในตอนเช้าและเที่ยง ห้ามอาบแดด 2 อาทิตย์และห้ามอาบแดดบริเวณ หน้าอก 4 อาทิตย์
  • -การขับรถ สามารถขับรถได้ถ้าไม่มีอาการปวดและเคลื่อนไหวแขนโดย ทั่วๆไป ถ้าขับรถเกียร์อัตโนมัติและในพวงมาลัยพาวเวอร์ ในวันที่ 6-7 ก็สามารถขับรถได้แต่ไม่ควรขับรถทางไกลเพราะจะหมุนพวงมาลัยได้ช้า ในกรณีที่ใช้เกียร์กระปุกควรรอให้หายปวดจนปกติ โดยทั่วไปประมาณ 2 อาทิตย์ ถ้าผ่าตัดเสริมในระยะเหนือกล้ามเนื้อสามารถเริ่มขับรถได้เร็วกว่าผ่าตัดใต้กล้ามเนื้อ
  • -การออกกำลังกายหลังผ่าตัด 2-3 วัน สามารถออกเดินช้าๆได้งดการออกกำลังกายปกติ 2 อาทิตย์ ควรงดออกกำลังกายรุนแรงในช่วง 3 อาทิตย์แรกหลังการผ่าตัดเนื่องจากการออกกำลังกายหนักจะทำให้ความดันเลือดสูงขึ้นซึ่งอาจจะมีผลทำให้เลือดออกภายหลังได้ ถ้างานที่ทำเป็นงานที่ต้องใช้แรงหรือมีการเคลื่อนไหวร่างกายมาก ๆ ควรรอจนร่างกาย พร้อมที่จะทำงานโดยอาจจะต้องลาหยุดนานกว่าคนที่ทำงานออฟฟิต ที่ไม่ต้องมีกิจกรรมทางร่างกายวันแรกที่เริ่มออกกำลังกาย ควรเริ่มออกกำลังน้อยๆ ไม่หักโหมเกินไป
  • -เส้นประสาทรับความรู้สึก การเสริมหน้าอกอาจมีการกระทบกระเทือนเส้นประสาทรับความรู้สึกได้ หลังผ่าตัดอาจมีลักษณะอาการเจ็บแปลบๆในบางตำแหน่ง จากการที่เส้นประสาทรับความรู้สึกอาการเหล่านี้จะค่อยๆดีขึ้น อย่างไรก็ตามถ้ามีอาการปวดและมีการบวมแดงหรือเขียวมากควรกลับมาให้แพทย์ตรวจโดยทันที
  • -การไม่เท่ากัน โดยทั่วไป เต้านมข้างซ้ายและข้างขวาจะมีรูปร่างแตกต่างกันเสมอตั้งแต่ก่อนผ่าตัดโดยหน้าอกมีขนาดใหญ่กว่าอีกข้างหนึ่งระดับหัวนมและฐานนมจะมีความแตกต่างกัน หลังการผ่าตัด การหายของแผลแต่ละข้างก็จะแตกต่างกันโดยที่ข้างหนึ่งเจ็บแต่อีกข้างหนึ่งจะไม่รู้สึกเจ็บ หรือข้างหนึ่งอาจบวมกว่าอีกข้างหนึ่งลักษณะนี้มักพบใน คนไข้ส่วนใหญ่จะรู้สึก ถึงความแตกต่างของทั้งสองข้าง แต่หลังจากแผลหายสนิทแล้วทั้งสองข้างจะดูใกล้เคียงกันและเป็นธรรมชาติ
  • -เสียงการเคลื่อนไหวของถุง ระยะแรกเวลาขยับถุงหรือเคลื่อนไหวร่างกายในบางตำแหน่งจะได้ยินเสียงถุงเสียดสีกันเป็นภายในบางครั้งอาจได้ยินบ่อยมากจนน่ารำคาญเสียงเกิดจากอากาศที่ค้างอยู่เล็กน้อยหรืออาจมีน้ำเหลืองค้างอยู่เวลาขยับตัวจึงได้ยินเสียงโดยทั่วไปอากาศหรือน้ำเหลือง ที่ตกค้างจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้เอง ภายใน 2-3 อาทิตย์เสียงเหล่านี้ก็จะหายไป
  • -การเข้าที่ การผ่าตัดเสริมหน้าอก ไม่ว่าจะใช้ถุงแบบใดใช้เวลาหนึ่งจึงจะเข้าที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผ่าตัดใส่ใต้กล้ามเนื้อจะใช้เวลาหลายอาทิตย์หรือหลายเดือนกว่าจะเข้าที่ไม่เปลี่ยนแปลงโดยที่หลังผ่าตัดกล้ามเนื้อและผิวหนังจะถูกยืดออกจนกระทั่งถุงเต้านมไม่ถูกกดทับโดยผิวหนังและกล้ามเนื้อ ในผู้หญิงที่มีรอบอกเล็กผิวหนังจะตึง และกล้ามเนื้อหน้าอก แข็งแรงอาจต้องใช้เวลา 3-6 เดือนกว่าจะเข้าที่ ฉะนั้นในระยะแรกๆ 1-2 อาทิตย์หลังผ่าตัดใต้กล้ามเนื้อภาพที่เห็นอาจจะยังไม่ใช่ภาพหน้าอกที่แท้จริงต้องรอเวลาสักระยะหนึ่งก่อน เต้านมที่สูงเกินไปหรือทรงตั้งเกินไปในระยะแรกเมื่อเวลาผ่านไปจะดูดีขึ้นการเสริมหน้าอกตรงเหนือกล้ามเนื้อจะใช้เวลาเข้าที่เร็วกว่าใต้กล้ามเนื้อ
  • -ความรู้สึกของหัวนม หัวนมมีความรู้สึกเปลี่ยนไปได้หลายแบบบางครั้งมีความรู้สึกปกติบางครั้งอาจรู้สึกช้า หรือบางครั้งมีความรู้สึกไวกว่าปกติการที่มีความรู้สึกไวกว่าปกติเป็นปัญหามากที่สุดโดย ทั่วๆไปจะภายใน 10 วันหรือ 1 เดือน หรือหลายเดือน การชาที่หัวนมพบได้บ่อยแต่มักมีอาการดีขึ้นเรื่อยๆ การชาถาวรไม่ค่อยพบ เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วเส้นประสาทที่หัวนมจะมีเส้นประสาทมาเลี้ยง 3 เส้นจากด้านนอกและ 3 เส้นจากด้านใน การกระทบกระเทือนเส้นประสาททั้งหมดเกิดได้ยาก
  • -การปวด อาการปวดจากการเสริมหน้าอก อาจจะมีระดับปานกลาง การผ่าตัดใต้กล้ามเนื้อปวดมากกว่าเหนือกล้ามเนื้อแผลที่อยู่ที่รักแร้ทำให้ปวดมากกว่าแผลที่อยู่ที่หัวนมหรือใต้ราวนมโดยทั่วไปอาการปวดจะแตกต่างกันตามวุฒิภาวะของแต่ละคนในช่วงระหว่างนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลจะใช้ยากลุ่ม มอร์ฟีนและขณะที่กลับบ้านสามารถใช้ยาแก้ปวดกลุ่มพาราเซตามอล ร่วมกับยาแก้ปวดอื่นได้ โดยทั่วไปอาการปวดจะดีขึ้นในช่วง 2-3 วันในบางคนอาจมีอาการปวดร้าวไปที่แขนหรือหลังซึ่งแก้ไขได้โดยการประคบน้ำอุ่นและรับประทานยาแก้ปวดงดการเคลื่อนไหวที่รุนแรง
  • -การคัน การคันสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ที่มีแผลโดยอาจจะคันรอบเต้านมหรือบริเวณแผลผ่าตัดเกิดจากการกระทบกระเทือนของเส้นประสาทรับความรู้สึก โดยทั่วไปจะเกิด อาทิตย์ที่ 2 มักจะดีขึ้นเองภายใน 1-2 อาทิตย์อาการคันของบริเวณเต้านมเกิดจากการที่ผิวหนัง ตึงหลังการเสริมหน้าอกสามารถ บรรเทาอาการโดยใช้โลชั่นทาที่เต้านมแต่อย่าให้ถูกแผลและประคบเย็นก็ช่วยให้ดีขึ้นได้
  • -แผลเป็น ยาหลายชนิดช่วยลดปัญหาแผลเป็น เช่น วิตามิน E ,ฮีลูดอยด์ ,สเตียรอยด์ ขึ้นอยู่กับแพทย์แต่ละคนจะเลือกใช้ยาได้ การนวดบริเวณแผลเป็น จะช่วยให้แผลแบนลงและนิ่มลงได้ และช่วยป้องกันไม่ให้แผลเป็นนูน
  • -นอนในท่าศรีษะสูงประมาณ 2 อาทิตย์ โดยหนุนหมอนประมาณ 2 ใบ จะช่วยลดอาการบวมลงได้
  • -ผิวหนังตึงหลังจากการเสริมหน้าอกไป ผิวหนังบริเวณหน้าอกก็จะตึงใสจากการบวมและจากยาชาที่ฉีดขณะที่ทำผ่าตัด โดยทั่วไป อาการบวมตึงจะลดลงใน 2-3 อาทิตย์ผิวหนังบริเวณนั้นจะดูปกติและเป็นธรรมชาติ
  • -ความรู้สึกในระยะที่มีการหายของแผลบริเวณหัวนมจะมีความรู้สึกไวมากต่อการสัมผัสเกิดจากการที่เส้นประสาทที่ได้รับการกระทบกระเทือนกำลังหายอาการเหล่านี้จะดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 2-3 อาทิตย์การนวดที่บริเวณเต้านมสามารถช่วยลดอาการดังกล่าวได้
  • -อาการเขียว หลังผ่าตัดอาทิตย์แรกจะเขียวหรือบวมที่แผลผ่าตัดมาก โดย 1-2 วันแรกจะแดง ในวันที่ 3-4 จะเริ่มเขียว ในคนที่ผ่าตัดที่รักแร้จะมีอาการเขียวที่รักแร้ ในวันที่ 3-4 อาการเขียวจะลดลงมาที่แขนในอาทิตย์ที่ 1-2 โดยทั่วไปอาการเขียวที่หน้าอกจะหายไปในวันที่ 7 -10 สำหรับบริเวณหน้าอกระยะแรกๆจะบวมอย่างเดียวอาการเขียวจะเริ่มที่ฐานนม ในอาทิตย์ที่ 2 และอาทิตย์ที่ 3อาการเขียวจะลดลงมาที่หน้าท้องส่วนบนตามแรงโน้มถ่วงของโลกอาการเขียวปกติ จะมีบ้างแต่ไม่มากแต่ถ้าเขียวมากๆควรติดต่อแพทย์โดยทันทีเพราะอาจมีเลือดค้างข้างในมากผิดปกติ โดยทั่วไปการดูแลทำโดยใช้น้ำอุ่นประคบบริเวณที่เขียวจะช่วยให้อาการที่เขียวหายเร็วขึ้น หรือถ้าไม่ประคบอาการเขียวก็มักดีขึ้นได้เองแต่ใช้เวลานานกว่า
  • -คลื่นไส้อาเจียน เกิดจากการดมยาสลบ โดยทั่วไปยาลดอาการอาเจียนสามารถช่วยลดอาการดังกล่าวได้
  • -การคันบริเวณผิวหนังเกิดจากการหายของแผลภายในและแผลเส้นประสาทอาการดังกล่าวจะดีขึ้นเรื่อยๆ
  • -อาการบวม 4 อาทิตย์แรกหน้าอกจะรู้สึกบวมและมีอาการตึง อาการเหล่านี้จะดีขึ้นได้แต่ในช่วง 2 อาทิตย์ ยากลุ่ม Arnicaสามารถช่วยลดอาการบวมได้
  • -การนวด เริ่มต้นตั้งแต่อาทิตย์แรกใช้มือ 2 ข้างดันเต้านมเข้าหากันใช้ฝ่ามือกดบริเวณฐานนมใต้ถุงเต้านมเคลื่อนที่ขึ้นบนใช้มือด้านตรงข้ามกับหน้าอกข้างนั้นๆกดบริเวณหัวนมให้ถุงซิลิโคนเลื่อนไปมาในอาทิตย์ที่ 2 ทำแบบอาทิตย์ที่ 1 แต่ให้ออกแรงมากขึ้น
    Sample Image
    หมายเหตุ เทคนิคการนวดว่าเริ่มนวดเวลาไหนหรือนวดแบบไหนขึ้นอยู่กับแพทย์ที่ดูแลแต่ละท่านในส่วนนี้ไม่มีหลักเกณฑ์ที่เป็นมาตรฐาน
ในปัจจุบัน แพทย์แต่ละท่านยังมีความเห็นที่แตกต่างกันในเรื่องการนวด หลังผ่าตัดแพทย์บางคนแนะนำให้นวด
แต่บางคนไม่แนะนำให้นวด โดยทั่วไปการนวดมีหลักการดังนี้

         1. เริ่มนวดตั้งแต่1วันหรือ1 อาทิตย์ จนถึง 3 อาทิตย์ นวดวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 5-10 นาที
         2. หลังจาก 3 อาทิตย์ให้นวดวันละครั้ง ครั้งละ 5-10 นาที ไปตลอด
                การนวดช่วยให้เต้านมนิ่มลง และลดการเกิดพังพืด
                การนวดขึ้นกับเทคนิคของแพทย์แต่ละท่าน ตัวอย่างการนวดเช่นการกดถุงเต้านมไปในทิศทางขึ้นบน ลงล่างและเข้าด้านใน ออกด้านนอกโดยกดในทิศทางต่างๆ ไว้ปริมาณ 3-5 วินาทีเพื่อให้ช่องว่างด้านบนไม่หดเล็กลงมา
         3. อาการท้องผูก หลังจากผ่าตัดมักมีอาการท้องผูกเนื่องจากยาแก้ปวดกลุ่มมอร์ฟีนจะลดการทำงานของลำไส้ใหญ่ควรใช้ยาระบายอย่างอ่อน เช่น เมตามูซิล และดื่มน้ำมากๆจะช่วยให้อาการดีขึ้น
   -ระยะเวลาพักฟื้น คำถามที่พบบ่อย คือ ควรหยุดงานเพื่อพักฟื้นเท่าไร โดยทั่วไป การพักฟื้นหลังผ่าตัด เสริมหน้าอกมีปัจจัยที่เกี่ยวข้อง หลายอย่างแตกตางกัน เช่น อายุ เทคนิคการผ่าตัด,ลักษณะผิวหนังของหน้าอก ,ถ้าตัวเล็กมากแต่ตึงมากก็จะปวดมาก
  •      1.โดยทั่วไประยะเวลาพักฟื้น ประมาณ 1 อาทิตย์ เพียงพอ แต่ถ้างานที่ทำต้องมีการออกกำลังหนักมาก อาจหยุดเพิ่มระยะเวลาพักฟื้นขึ้นโดยหลังผ่าตัดจะแนะนำให้ลดอาการเคลื่อนไหว เช่น การเดิน การยกแขนเพื่อให้แผลหายเร็วขึ้น 
         2.ถ้าผ่าตัดใต้กล้ามเนื้อ จะเจ็บปวดมากกว่าต้องการระยะเวลาพักฟื้นที่ยาวนานกว่า 
         3.คนอายุน้อยใช้ระยะเวลาพักฟื้นสั้นกว่าบางครั้งการกำหนดช่วงระยะเวลาพักฟื้นและระยะเวลาการหยุดงานอาจต้องดูตามไลฟ์สไตล์แต่ละคน