การผ่าตัดที่ทำร่วมกับการเสริมสร้างเต้านม
การผ่าตัดที่ทำร่วมกับการเสริมสร้างเต้านม
เพื่อให้ได้รูปร่างเต้านมที่สวยงามสมบูรณ์ อาจต้องมีการผ่าตัดอื่นๆร่วมด้วยได้แก่
1.การผ่าตัดทำหัวนมและปานนม
ในการตัดเต้านมออกหัวนมและปานนมจะถูกตัดออกไปด้วยเนื่องจากเป็นตำแหน่งที่อาจมีเซลล์มะเร็งอยู่หลัง
การทำเต้านมแล้วมักต้องผ่าตัดหัวนมและปานนมโดยทั่วไปการทำหัวนมและปานนมเป็นการผ่าตัดเล็กและใช้
เวลาผ่าตัดไม่มากและสามารถทำโดยการฉีดยาชา การทำหัวนมจะทำได้โดย
A.ใช้หัวนมฝั่งตรงข้าม ถ้าหัวนมมีขนาดใหญ่มากพอ
B.โดยใช้เทคนิคการผ่าตัด ยกผิวหนังหน้าอกขึ้นเป็นหัวนม
C.ใช้ส่วนของผิวหนังบริเวณต้นขา ,ใบหู , หรือเท้า
โดยทั่วไปมักจะเลือกวิธีการ B มากที่สุดเพราะเป็นเทคนิคที่ได้ขนาดของหัวนมใหญ่เพียงพอและไม่ค่อยมีปัญหา
การอยู่ของเนื้อเยื่อหลังการผ่าตัด
ในการตัดเต้านมออกหัวนมและปานนมจะถูกตัดออกไปด้วยเนื่องจากเป็นตำแหน่งที่อาจมีเซลล์มะเร็งอยู่หลัง
การทำเต้านมแล้วมักต้องผ่าตัดหัวนมและปานนมโดยทั่วไปการทำหัวนมและปานนมเป็นการผ่าตัดเล็กและใช้
เวลาผ่าตัดไม่มากและสามารถทำโดยการฉีดยาชา การทำหัวนมจะทำได้โดย
A.ใช้หัวนมฝั่งตรงข้าม ถ้าหัวนมมีขนาดใหญ่มากพอ
B.โดยใช้เทคนิคการผ่าตัด ยกผิวหนังหน้าอกขึ้นเป็นหัวนม
C.ใช้ส่วนของผิวหนังบริเวณต้นขา ,ใบหู , หรือเท้า
โดยทั่วไปมักจะเลือกวิธีการ B มากที่สุดเพราะเป็นเทคนิคที่ได้ขนาดของหัวนมใหญ่เพียงพอและไม่ค่อยมีปัญหา
การอยู่ของเนื้อเยื่อหลังการผ่าตัด
หลังการผ่าตัดหัวนมและก็จะทำปานนมต่อโดยการทำปานนมมี 2 วิธีคือ
1.การใช้ผิวหนังบริเวณอื่นมาทำกราฟที่ปานนม
โดยผิวหนังที่นำมาใช้อาจมาจากขาหนีบหรือแคมในเนื่องจากบริเวณนี้ผิวหนังจะมีสีคล้ำก็จะคล้ายคลึงกับปาน
นม
2.โดยการสัก การผ่าตัดทำหัวนมและปานนม เป็นการผ่าตัดเล็กและมีความเจ็บปวดน้อยเทคนิคในปัจจุบันได้ผล
ค่อนข้างดี การผ่าตัดจะเริ่มทำหลังจากการทำเต้านม เสร็จเรียบร้อยสมบูรณ์แล้วประมาณ 2 – 3 เดือน โดยทั่วไป
รูปทรงและสีจะทำแยกกันโดยเริ่มทำหัวนมก่อนหรืออาจทำปานนมได้เลยถ้าใช้ผิวหนังทำปานนมหลังจากแผล
หายแล้วประมาณ 1-2 เดือน ถ้าสีไม่ได้เหมาะสมอาจต้องทำการสักสีเพิ่มเติม ภายหลัง(รูป 20B)
2..การผ่าตัดให้เต้านมทั้ง 2 ข้างเท่ากัน ถ้าหลังจากเสริมสร้างเต้านมแล้ว ขนาดและรูปทรงของเต้านมแต่ละข้าง
แตกต่างกันมากอาจต้องแก้ไขผ่าตัดเต้านมข้างที่ดีให้มีรูปร่างเหมาะสมกับเต้านมอีกข้างหนึ่งในผู้หญิงที่มีอายุ
มาก ,มีบุตรแล้ว ,หรือหลังให้นมบุตร เต้านมจะคล้อยลงมากต่างจากเต้านมที่เสริมสร้างหลังผ่าตัดเต้านมก็จะตั้ง
และไม่คล้อย ( เหมือนเต้านมตอนอายุ 17-18 )
ดังนั้นเต้านมข้างที่ปกติอาจต้องผ่าตัดเป็นยกกระชับเต้านมหรือทำการผ่าตัดเพื่อเสริมเต้านม
A.การผ่าตัดยกกล้ามเต้านม ( Mastopexy) เป็นการตัดแถวผิวหนังที่เต้านมให้เต้านมตึงขึ้น โดยมีการย้ายหัวนม
ขึ้นจากตำแหน่งเดิมที่คล้อยแล้วตัดแต่งผิวหนังจัดวางให้มีลักษณะความตึงเหมือนกับอีกข้างหนึ่ง
B. การเสริมหน้าอกด้วยถุงซิลิโคน ถ้าเต้านมอีกข้างเล็กและคล้อยลงเล็กน้อยการเสริมด้วยถุงเต้านมเป็นวิธีการที่
ง่ายและมีแผลเป็นน้อยกว่าการยกกระชับเต้านมแต่จะทำได้เมื่อเต้านมข้างที่ดีมีขนาดเล็กกว่าเต้านมที่มีการ
เสริมสร้างเท่านั้น อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะทำการผ่าตัดเต้านมอีกข้างเต้านมทั้ง 2 ข้างก็ยังไม่มีขนาดเท่ากัน
ยังคงต้องมีความแตกต่างกันเล็กน้อย การผ่าตัดนี้ช่วยให้เต้านมทั้ง 2 ข้างออกมาใกล้เคียงกันแต่ไม่ได้หมายความ
ว่าจะเท่ากัน 100 % แม้เต้านมปกติจะเห็นว่าเดิมขนาด และรูปร่างเต้านมซ้ายก็จะแตกต่างจากเต้านมขวาหรือ
แม้ว่าเต้านมที่ผ่าตัดแก้ไขแล้วเมื่อเวลาผ่านไปเต้านมก็จะมีความแตกต่างกันมากขึ้น ตามอายุ หลังผ่าตัดเช่นเต้า
นมข้างหนึ่งอาจคล้อยมากกว่าอีกข้างหนึ่ง
ก่อนการผ่าตัดเสริมสร้างเต้านมอาจต้องปรึกษาแพทย์ถึงเต้านมอีกข้างหนึ่ง( ข้างที่ดีด้วย )ถ้าไม่
ต้องการผ่าตัดเต้านมข้างที่ดีเลยควรบอกแพทย์ก่อนการผ่าตัดเสริมสร้างเต้านมเพื่อเลือกวิธีการที่เหมาะสมในการ
ผ่าตัดเสริมเต้านมให้มีรูปร่างคล้ายคลึงกับเต้านมข้างที่ดีมากที่สุด
ข้อเปรียบเทียบแต่ละวิธี
1.การใช้ผิวหนังบริเวณอื่นมาทำกราฟที่ปานนม
โดยผิวหนังที่นำมาใช้อาจมาจากขาหนีบหรือแคมในเนื่องจากบริเวณนี้ผิวหนังจะมีสีคล้ำก็จะคล้ายคลึงกับปาน
นม
2.โดยการสัก การผ่าตัดทำหัวนมและปานนม เป็นการผ่าตัดเล็กและมีความเจ็บปวดน้อยเทคนิคในปัจจุบันได้ผล
ค่อนข้างดี การผ่าตัดจะเริ่มทำหลังจากการทำเต้านม เสร็จเรียบร้อยสมบูรณ์แล้วประมาณ 2 – 3 เดือน โดยทั่วไป
รูปทรงและสีจะทำแยกกันโดยเริ่มทำหัวนมก่อนหรืออาจทำปานนมได้เลยถ้าใช้ผิวหนังทำปานนมหลังจากแผล
หายแล้วประมาณ 1-2 เดือน ถ้าสีไม่ได้เหมาะสมอาจต้องทำการสักสีเพิ่มเติม ภายหลัง(รูป 20B)
2..การผ่าตัดให้เต้านมทั้ง 2 ข้างเท่ากัน ถ้าหลังจากเสริมสร้างเต้านมแล้ว ขนาดและรูปทรงของเต้านมแต่ละข้าง
แตกต่างกันมากอาจต้องแก้ไขผ่าตัดเต้านมข้างที่ดีให้มีรูปร่างเหมาะสมกับเต้านมอีกข้างหนึ่งในผู้หญิงที่มีอายุ
มาก ,มีบุตรแล้ว ,หรือหลังให้นมบุตร เต้านมจะคล้อยลงมากต่างจากเต้านมที่เสริมสร้างหลังผ่าตัดเต้านมก็จะตั้ง
และไม่คล้อย ( เหมือนเต้านมตอนอายุ 17-18 )
ดังนั้นเต้านมข้างที่ปกติอาจต้องผ่าตัดเป็นยกกระชับเต้านมหรือทำการผ่าตัดเพื่อเสริมเต้านม
A.การผ่าตัดยกกล้ามเต้านม ( Mastopexy) เป็นการตัดแถวผิวหนังที่เต้านมให้เต้านมตึงขึ้น โดยมีการย้ายหัวนม
ขึ้นจากตำแหน่งเดิมที่คล้อยแล้วตัดแต่งผิวหนังจัดวางให้มีลักษณะความตึงเหมือนกับอีกข้างหนึ่ง
B. การเสริมหน้าอกด้วยถุงซิลิโคน ถ้าเต้านมอีกข้างเล็กและคล้อยลงเล็กน้อยการเสริมด้วยถุงเต้านมเป็นวิธีการที่
ง่ายและมีแผลเป็นน้อยกว่าการยกกระชับเต้านมแต่จะทำได้เมื่อเต้านมข้างที่ดีมีขนาดเล็กกว่าเต้านมที่มีการ
เสริมสร้างเท่านั้น อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะทำการผ่าตัดเต้านมอีกข้างเต้านมทั้ง 2 ข้างก็ยังไม่มีขนาดเท่ากัน
ยังคงต้องมีความแตกต่างกันเล็กน้อย การผ่าตัดนี้ช่วยให้เต้านมทั้ง 2 ข้างออกมาใกล้เคียงกันแต่ไม่ได้หมายความ
ว่าจะเท่ากัน 100 % แม้เต้านมปกติจะเห็นว่าเดิมขนาด และรูปร่างเต้านมซ้ายก็จะแตกต่างจากเต้านมขวาหรือ
แม้ว่าเต้านมที่ผ่าตัดแก้ไขแล้วเมื่อเวลาผ่านไปเต้านมก็จะมีความแตกต่างกันมากขึ้น ตามอายุ หลังผ่าตัดเช่นเต้า
นมข้างหนึ่งอาจคล้อยมากกว่าอีกข้างหนึ่ง
ก่อนการผ่าตัดเสริมสร้างเต้านมอาจต้องปรึกษาแพทย์ถึงเต้านมอีกข้างหนึ่ง( ข้างที่ดีด้วย )ถ้าไม่
ต้องการผ่าตัดเต้านมข้างที่ดีเลยควรบอกแพทย์ก่อนการผ่าตัดเสริมสร้างเต้านมเพื่อเลือกวิธีการที่เหมาะสมในการ
ผ่าตัดเสริมเต้านมให้มีรูปร่างคล้ายคลึงกับเต้านมข้างที่ดีมากที่สุด
ข้อเปรียบเทียบแต่ละวิธี
ลักษณะทั่วไป |
หนังหน้าท้อง |
กล้ามเนื้อหลัง |
เสริมโดยถุงซิลิโคน |
1.ถุงเต้านม |
ไม่ใช้ถุงเต้านมเทียม |
อาจใช้ร่วมกับถุงเต้านมเทียม |
ใช้ถุงเต้านมเทียม |
2.แผลเป็น |
มีแผลเป็นหน้าท้องแต้หน้าท้องราบเรียบ |
มีแผลเป็นที่หลัง |
ไม่มีแผลเป็นเพิ่ม |
3.กล้ามเนื้อ |
กล้ามเนื้อหน้าท้องอ่อนตัวลง |
ไหล่ข้างหนึ่งอ่อนแอลง |
ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเหมือนเดิม |
เวลาผ่าตัด |
3 – 6 ชั่วโมง |
2 – 4 ชั่วโมง |
1 – 2 ชั่วโมง |
เวลานอน ร.พ. |
2 – 5 วัน |
2 – 3 วัน |
0 – 2 วัน |
ระยะเวลาพักฟื้น |
6 - 8 อาทิตย์ |
2 – 3 อาทิตย์ |
2 – 3 อาทิตย์ |