การวัดขนาดยกทรง การเลือกขนาดของยกทรงเป็นปัญหาหนึ่งที่ยุ่งยากของคนทั่วไป โดยเฉพาะหลังการผ่าตัดเนื่องจากยกทรงแต่ละยี่ห้อมีรูปร่างและขนาดแตกต่างกัน เช่นยกทรงขนาด 70 B ของวาโก้ อาจมีขนาดแตกต่าง จาก 70 B ของไทรอั้ม
การเลือกสวมใส่ยกทรงที่เหมาะสมได้สัดส่วนและมีทรวดทรงที่สวยงามนั้นจำเป็นที่จะต้องเลือกขนาดยกทรง (คับและไซด์) ให้ถูกต้องและเหมาะสมกับสรีระและสิ่งที่สำคัญที่สุดของการเลือกไซด์ยกทรงคือ การวัดสัดส่วนเพื่อหาขนาดคับ-ไซด์ อย่างถูกวิธี
ตัวอย่างที่ 1 ตัวอย่างข้างล่างเป็นการวัดขนาดของทรงยกทรงที่ต่างประเทศโดยทั่วไป การวัดขนาดจะต้องใช้สายวัด
วัดรอบอกที่ระดับหัวนม > ขนาดระดับราวนม วัดรอบอกที่ระดับใต้ราวนม > ขนาดรอบอกใต้ราวนม
-
ตัวเลขที่ได้รับของขนาดใต้ราวนมถ้าเป็นเลขคี่ให้+5”จะได้ขนาดของยกทรง เช่นถ้าวัดได้ 29“+5”=ขนาดยกทรง34
-
ตัวเลขวัดใต้ราวนมถ้าเป็นเลขคู่ให้+4”จะได้ขนาดยกทรง เช่นการวัดได้28”+4”=ขนาดยกทรง 34” ส่วนต่างระหว่างขนาดระดับราวนมและใต้ราวนมเป็นตัวกำหนดคับไซด์ดังนี้
32” band (27-28”ribcage) : 34” band (29-30”ribcage)36” band (31-32”ribcage) : 38” band (33-34”ribcage)
6”=A
|
7”=A
|
8”=A
|
9”=A
|
6.5’=Full A |
7.5”=Full A |
8.5”=Full A |
9.5”=Full A |
7”=B |
8”=B |
9”=B |
10”=B |
7.5”=Full B |
8.5”=Full B |
9.5”=Full B |
10.5”=Full B |
8”=C
|
9”=C
|
10”=C
|
|
8.5”=Full C |
9.5”=Full C |
10.5”=Full C |
|
9”=D |
10”=D |
11”=D |
11”=C |
9.5”=Full D |
10.5”=Full D |
11.5”=Full D |
11.5”=Full C |
10”=DD |
11”=DD |
12”=DD |
12”=D |
10.5”=Full DD |
11.5”=Full DD |
12.5”=Full DD |
12.5”=Full D |
11”=E |
12”=E |
13”=E |
13”=DD |
11.5”=Full E |
12.5”=Full E |
13.5”=Full E |
13.5”=Full DD |
ตัวอย่างที่ 2 เป็นขนาดของยกทรงยี่ห้อหนึ่งของไทย ซึ่งจะวัดขนาดเป็น cm. โดยรูปแบบการวัด เช่นเดียวกับต่างประเทศคือวัดขนาดรอบอกและขนาดใต้อกโดยขนาดเป็นดังนี้
ขนาด
- ยืนตรงแล้วใช้สายวัด (ด้านเซนติเมตร) วัดตำแหน่งรอบอกโดยให้สายวัดผ่านจุดหัวกันทั้งสองข้าง
- จากนั้นวัดรอบใต้อก(ซึ่งจะบอกถึงขนาดลำตัว)
เส้นรอบวงทั้งสองตำแหน่งนี้ ควรอยู่ในแนวขนานกับพื้นและไม่รัดแน่นหรือหลวมเกินไปจากนั้นนำ ตัวเลขที่ได้มาลบกัน แล้วนำผลต่างมาดูตารางเปรียบเทียบขนาดชุดชั้นใน ผลต่างที่ได้คือ ขนาดของคับ ส่วนขนาด ของไซด์นั้นนำตัวเลขที่ได้จากการวัดรอบอกใต้อก มาเทียบกับตารางยกทรงได้เลย
ตารางเทียบขนาดยกทรง ( ขนาดคับ-ขนาดไซด์)
ตารางขนาดคับ
|
ขนาดคับ
|
ผลต่างรอบอก-รอบใต้อก
|
A
|
9.0 - 11.0 ซ.ม.
|
B
|
11.5 - 13.5 ซ.ม.
|
C
|
14.0 - 16.0 ซ.ม.
|
D
|
16.5 - 18.5 ซ.ม.
|
E
|
19.0 - 21.0 ซ.ม.
|
>E
|
21.5 ขึ้นไป
|
|
ตารางขนาดไซด์ |
ขนาดไซด์ |
รอบใต้อก |
65 |
63.0 - 67.0 ซ.ม. |
70 |
68.0 - 72.0 ซ.ม. |
75 |
73.0 - 77.0 ซ.ม. |
80 |
78.0 - 82.0 ซ.ม. |
85 |
83.0 - 87.0 ซ.ม. |
90 |
88.0 - 92.0 ซ.ม. |
95 |
93.0 - 97.0 ซ.ม. |
100 |
98.0 – 102 ซ.ม. |
105 |
103.0 – 107 ซ.ม. |
|
รอบอก 81 ซม. รอบใต้อก 69 ซม. ผลต่าง 12 ซม. ขนาดคับคือ B ขนาดไซด์คือ 70 ขนาดยกทรงที่ได้คือ B70
ความสวยงามของรูปทรงหน้าอกหลังจากเสริมขึ้นกับขนาดและรูปร่างของหน้าอกเดิม การเสริมหน้าอก เป็นการทำให้หน้าอกเดิมมีขนาดใหญ่ขึ้น ภาพหลังจากการเสริมหน้าอกเดิมคือ หน้าอกเดิมแต่มีขนาดใหญ่ขึ้น เทคนิคและวิธีการผ่าตัดอาจมีส่วนเกี่ยวข้องต่อผลที่ได้จากการผ่าตัดบ้างแต่มีผลน้อยกว่าโครงสร้างพื้นฐานของ หน้าอกโดยทั่วไปการเสริมหน้าอกสามารถทำให้อาจมีขนาดใหญ่ได้แต่ไม่สามารถเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานของ หน้าอกได้ปัจจัยอื่นๆที่มีผลต่อการเสริมหน้าอกได้แก่รูปร่างและขนาดของกระดูกซี่โครง ขนาดของเนื้อนม ลักษณะผิวหนังบริเวณหน้าอก ตำแหน่งและขอบเขตของขนาดเต้านมและหัวนมในบางคนหน้าอกอาจมีขนาดไม่ เท่ากันการผ่าตัดสามารถช่วยแก้ปัญหาการไม่เท่ากันในบางกรณี แต่บางกรณีการผ่าตัดก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ตัวอย่างเช่น ความแตกต่างกันของระดับของหัวนมและขอบล่างของเต้านม การผ่าตัดเสริมหน้าอกไม่สามารถปรับ ให้เท่ากันได้แต่ถ้าต้องการผ่าตัดเต้านมที่มีขนาดแตกต่างกันมาก การใส่ถุงเต้านมที่มีขนาดต่างกันจะช่วยปรับ ขนาดให้ใกล้เคียงกันได้
หลังจากได้คอนเซปด์ ของการวัดขนาดหน้าอกคร่าวๆขณะที่ปรึกษาแพทย์ วิธีการวัดขนาดขึ้นอยู่กับ เทคนิค ของแพทย์แต่ละท่าน การวัดคร่าวๆอาจทำโดยการใส่ถุงเต้านมไปที่สปอร์ตบราที่ไม่ได้เสริมฟองน้ำแล้ว มองภาพที่กระจกหลังจากการลองไซด์ วิธีการนี้ช่วยให้เห็นภาพของหน้าอกหลังการเสริมคร่าวๆและเป็นวิธีการที่ ง่ายการวัดขนาดอีกวิธีหนึ่งได้แก่การวัดความกว้างความยาวของหน้าอกจริง แล้วมาเปรียบเทียบกับถุงซิลิโคนของ แต่ละบริษัท แต่ละแบบ วิธีการนี้เป็นการวัดที่ค่อนข้างละเอียดและบอกได้ชัดเจน โดยเฉพาะถุงที่มีขนาดใหญ่ ว่ามีความกว้างของถุงมากเกินไปหรือไม่ (oversize) หรือถ้าถุงขนาดเล็กเกินไป อาจทำให้ลักษณะหัวนมชี้ออก หรือเข้า เนื่องจากหัวนมไม่ได้อยู่ตรงกลางถุง บางครั้ง หลังจากลองขนาดถุงเต้านมและเลือกขนาดถุงแล้วอาจต้อง ทำการเปรียบเทียบขนาดหน้าอกกับถุงซิลิโคนว่าสามารถใส่ได้พอดีหรือไม่ (ดูรายละเอียดในเรื่องชนิดของ ซิลิโคน)
ขณะที่ทำการปรึกษาเลือกขนาดจะต้องพิจารณา เนื้อหาการปรับขนาดแต่ละคนด้วยโดยต้องดู
- ขนาดเนื้อนมแตกต่างกันมากหรือไม่ ถ้าเนื้อเต้านมต่างกันมากอาจต้องพิจารณาใส่ถุงที่มีขนาด
แตกต่างกัน โดยทั่วไปจะใส่ถุงซิลิโคนต่างกันประมาณ 20 cc. เพื่อปรับขนาดโดยเต้านมข้างที่ใหญ่กว่าจะใส่ถุงที่ เล็กกว่า 20 cc. บางครั้งถ้าขนาดของเต้านมมีขนาดต่างกันมากๆ ขนาดถุงที่ใส่อาจต้องแตกต่างกัน 40-50 cc.
- ระดับของขอบล่างของราวนม เป็นขอบเขตด้านล่างของนม โดยทั่วไปหน้าอกด้านที่เล็กกว่าอาจมี
ขอบราวนมสูงกว่า ด้านที่เต้านมใหญ่กว่าแต่ไม่แน่เสมอไป การเสริมหน้าอกบางครั้งอาจช่วยปรับระดับของเต้า นมโดยการทำช่องใส่เต้านมให้ต่ำกว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับขนาดของถุงซิลิโคนที่ใส่ด้วย รวมทั้งขึ้นกับความ แตกต่างเดิม การผ่าตัดอาจช่วยหรือไม่ช่วยแก้ปัญหานี้
- ระดับของหัวนม เรื่องนี้เป็นเรื่องยากที่จะเปลี่ยนแปลงด้วยการผ่าตัดโดยทั่วไป การผ่าตัดเสริมหน้าอก
จะไม่สามารถเปลี่ยนระดับของหัวนมได้เลย แต่การที่หน้าอกมีขนาดใหญ่ขึ้น อาจช่วยทำให้ความแตกต่างอันนี้ เห็นชัดน้อยลง
- ลักษณะหัวนมและปานนม ในบางคนหัวนมและปานนม เล็กและมีร่องรอยเหี่ยวย่นอาจเกิดจากการที่
ตั้งครรภ์แล้วเต้านมขนาดใหญ่ เต้านมและปานนมก็จะใหญ่ขึ้นแล้วหลังคลอดบุตรเต้านมและปานนมเล็กลงทำให้ เกิดร่องรอยย่นขึ้นที่ปานนม การเสริมหน้าอก ช่วยให้ปานนมตั้งขึ้นและหัวนมตั้งขึ้นได้

ภาพอ้างอิงจาก http://www2.victoriassecret.com/braguide/howToMeasure.cfm?rfnbr=5373 |